4 Purifying plants to refresh your home with this coming new year.
มาเพิ่มพื้นที่สีเขียวและตกแต่งบ้านของคุณให้มีบรรยากาศสุดร่มรื่น ด้วยต้นคล้า 4 สายพันธุ์
ที่จะช่วยทั้งเพิ่มออกซิเจน ดูดสารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังเสริมฮวงจุ้ยให้กับบ้าน สร้างบาลานซ์ต้อนรับปีใหม่นี้ได้อีกด้วย
มาดูกันว่า ต้นคล้าแต่ละสายพันธุ์ที่เราเลือกมานั้นมีประโยชน์และมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไรบ้าง
1. ต้นคล้าหางนกยูง (Calathea Roseopicta)
พันธุ์ไม้ประดับที่มีใบลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และแยกออกเป็นต้นคล้าหางนกยูงเขียวและต้นคล้าหางนกยูงแดง จากสีบนลวดลายของใบที่แตกต่างกัน โดยสามารถดูดซับสารพิษได้เล็กน้อย และรักษาความชุ่มชื้นในห้องได้
วิธีการดูแลรักษา
– ชอบดินร่วนปนทราย
– ต้องการแสงแดดในปริมาณปานกลาง ไม่เหมาะกับการปลูกกลางแจ้ง
– ควรรดน้ำทุกวันเพราะต้นคล้าหางนกยูงต้องการความชื้นอยู่เสมอ
2. ต้นนางพญาคล้าทอง (Ctenanthe Oppenheimiana)
มีถิ่นกำเนิดจากประเทศบราซิล ความโดดเด่นของพันธุ์นี้อยู่ที่ตัวใบมีลวดลายสีขาว ส่วนด้านหลังใบจะเป็นสีแดงหรือสีม่วง ในไทยเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับคนปลูกได้
วิธีการดูแลรักษา
– ปลูกได้ดีกับดินร่วน
– ชอบแดดรำไร ทำให้ควรปลูกในอาคาร
– ชอบน้ำมากแต่ไม่แฉะจนเกินไป
3. ต้นคล้าแววมยุรา (Calathea Makoyana)
พันธุ์คล้าชนิดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ลวดลายที่มีลักษณะคล้ายกิ่งและแตกใบออกอยู่ในใบจริงๆ อีกที และยังมี 2 สี คือใบด้านบนมีสีเขียวและลวดลาย ส่วนใต้ใบมีสีเขียวอมเทาหรือสีม่วงแดง
วิธีการดูแลรักษา
– สามารถปลูกโดยใช้ดินทั่วไป
– ชอบแสงแดดรำไรจึงเหมาะกับการปลูกในอาคาร
– ต้องการน้ำมากจึงควรลดน้ำทุกว้น
4. ต้นคล้าใบเงิน (Calathea Silver Plate)
ถือเป็นไม้ใบประดับตระกูลคล้าที่มีลวดลายตามใบและสีสันสวยงาม และเป็นไม้มงคลที่เป็นที่นิยมเนื่องจากคนโบราณเชื่อว่า “บ้านใดปลูกต้นคล้าไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครองผู้อยู่อาศัยให้มีความสงบสุข” เพราะคำว่าคล้านั้นใกล้เคียงกับคำโบราณว่า “คลุ้ม” ที่หมายถึงการคุ้มครอง และยังพ้องเสียงกับคำว่า “คล้าคลาด” หรือแคล้วคลาดปลอดภัยนั่นเอง
วิธีการดูแลรักษา
– ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดีหรือดินร่วนปนทราย
– ต้องการแสงแดดร่ม รำไร
– ต้องการน้ำมากจึงควรรดน้ำทุกวัน
#ThePARQ #LifeWellBalanced #GoGreen